ไดคุเระ (ไทยแลนด์) ชูผลงานและนวัตกรรม Grating ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ตลอดระยะเวลา 12 ปี พร้อมเผยแผนอนาคตเร่งเจาะกลุ่มงานภาครัฐ เสริมธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายมาซาโอะ โดอิ ประธาน บริษัท ไดคุเระ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตตะแกรงเหล็ก (Grating) จากประเทศญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Answer News Industrial Magazine ในโอกาสครบรอบ 12 ปี ว่า “ไดคุเระ (ไทยแลนด์)” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2554 (ค.ศ. 2011) ด้วยการลงทุนของบริษัทไดคุเระ ประเทศญี่ปุ่น (บริษัทแม่) 100% เพื่อขยายธุรกิจตะแกรงเหล็กในประเทศไทยและตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันดำเนินธุรกิจครบรอบ 12 ปีแห่งความสำเร็จบริษัทมีโรงงานผลิตอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ตำบลบ้านโพ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บนพื้นที่โรงงานทั้งหมดกว่า 21,300 ตารางเมตร ภายในมีอาคารโรงงานที่มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 6,500 ตารางเมตร และมีพื้นที่ใช้สอยที่ยังสามารถก่อสร้างอาคารโรงงานเพิ่มเติม เพื่อรองรับการเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการในอนาคตอีกด้วย
สำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะอยู่ในกลุ่มของตะแกรงเหล็กแผ่นเชื่อมสำเร็จรูปชุบกันสนิม (Hot Dip Galvanized Steel Grating) โดยกระบวนการผลิตจะนำเหล็กแบริ่งบาร์ (Bearing Bars) และเชื่อมเป็นโครงตะแกรงด้วยทวิสบาร์ (Twist Bars) ด้วยการใช้วิธีการ Projection Welding เชื่อมให้ Twist Bars จมลงไปในเหล็กเส้น Bearing Bars ทำให้มีรอยเชื่อมที่ได้มาตรฐานเหมือนกันทุกจุด ซึ่งหลังจากการเชื่อมแล้วก็จะนำมาตัดตามขนาดและประกอบขึ้นรูปตามที่ลูกค้าต้องการ และเพื่อยืดอายุการใช้งานยังนำไปชุบกัลวาไนซ์กันสนิมทำให้มีความแข็งแรงและทนทานต่อการสึกกร่อน'
ส่วนผลิตภัณฑ์ที่บริษัทผลิตและจำหน่ายให้กับลูกค้า จะประกอบไปด้วย ตะแกรงเหล็กแผ่นเชื่อมชุบกันสนิม ขนาดมาตรฐานทั่วไป, ตะแกรงขั้นบันไดเหล็ก, ตะแกรงสเตนเลสแผ่น ขนาดมาตรฐานทั่วไป, แผ่นปูทางเดินไฟเบอร์กลาส (FRP Grating) และเหล็กแผ่นลาย (Checkered Plate) ซึ่งตะแกรงเหล็กที่บริษัทมีการผลิตส่วนใหญ่จะนำไปใช้ปูพื้นตามโรงงานอุตสาหกรรม โดยจะอยู่ในกลุ่มของอุตสาหกรรม เช่น ปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า Machine Platform เป็นต้น และบางส่วนจะเป็นตะแกรงเหล็กสำหรับงานท้องถนนและท่อระบายน้ำ
นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่สร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ตะแกรงในท้องตลาด ด้วยการเพิ่มลวดลายบนตะแกรง เพื่อป้องกันการลื่นและเกิดอุบัติเหตุในขณะมีการใช้งานช่วงที่ฝนตกหรือพื้นเปียก ซึ่งบริษัทได้มีการติดตั้งเครื่องจักรสำหรับลอกลาย และได้มีการทดสอบผลิตภัณฑ์ผ่านการใช้งานจริง ผลปรากฏว่าสามารถใช้งานและป้องกันการลื่นได้จริง รวมทั้งอยู่ในค่ามาตรฐาน คาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
นายมาซาโอะ โดอิ กล่าวต่อถึงแผนการดำเนินธุรกิจว่า ปัจจุบัน บริษัทแม่ได้มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ เป็นพื้นตะแกรงเหล็กสำหรับการป้องกันสัตว์ป่าเดินเข้าไปในพื้นที่ที่อาจเป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ แต่มีความแข็งแรงรองรับน้ำหนักรถยนต์ได้ ซึ่งในปัจจุบันมีลูกค้าได้สั่งซื้อไปติดตั้งแล้ว และบริษัทคาดว่าจะเดินหน้าทำตลาดในประเทศเพิ่มมากขึ้นส่วนการลงทุนในระยะยาว บริษัทมองว่า ประเทศไทยมีการนำตะแกรงเหล็กชุบกันสนิม (Hot Dip Galvanized Steel Grating) มาใช้งานตามท้องถนนในปริมาณที่น้อย จึงเป็นช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจ หากเข้าถึงและขยายตลาดได้ นอกจากจะทำให้บริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้นแล้ว ยังสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนที่สัญจรตามท้องถนนและลดอุบัติเหตุที่เกิดจากฝาตะแกรงเหล็กชำรุดหรือขึ้นสนิมได้อีกทางหนึ่งด้วยนายมาซาโอะ โดอิ กล่าวปิดท้ายว่า อยากฝากแนวคิดให้กับผู้อ่าน Answer News Industrial Magazine ร่วมกันผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการเลือกใช้ตะแกรงเหล็กที่มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างความปลอดภัยกับผู้ที่สัญจรบนท้องถนนและทางเดินเท้า และช่วยเรื่องการระบายน้ำที่จะนำไปสู่การเกิดน้ำท่วมขังอีกด้วย โดยปัญหาดังกล่าวล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
“จากที่ได้มีการศึกษาและเก็บข้อมูลตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราเห็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากเลือกใช้ตะแกรงเหล็กทั่วไปที่มีอายุการใช้งานได้ไม่นาน มีการเกิดสนิมและผุกร่อน ด้านการใช้ฝาคอนกรีตที่ไม่ช่วยในเรื่องของการระบายน้ำ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง ดังนั้น หากมีการเปลี่ยนและเลือกใช้ตะแกรงเหล็กที่มีคุณภาพจะป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและช่วยในเรื่องของการระบายน้ำได้ จึงอยากให้ผู้อ่านช่วยกันผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต” นายมาซาโอะ โดอิ กล่าว
สำหรับพันธมิตรทางการค้า ทั้งคู่ค้าและซัพพลายเออร์ ทางบริษัทขอขอบคุณที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนกันมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัตถุดิบที่มีคุณภาพ เรื่องการช่วยเหลือด้านการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในต่างประเทศ ตลอดจนองค์ความรู้ คำแนะนำ และการเป็นที่ปรึกษาเรื่องต่างๆ ทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างในปัจจุบัน
